[SF-TVXQ] --- The Last X'Mas --- [YunJae] - [SF-TVXQ] --- The Last X'Mas --- [YunJae] นิยาย [SF-TVXQ] --- The Last X'Mas --- [YunJae] : Dek-D.com - Writer

    [SF-TVXQ] --- The Last X'Mas --- [YunJae]

    คริสต์มาสครั้งสุดท้าย... ของ "ชองยุนโฮ" "คิมแจจุง" และ... "คิมยองอุง" (Category: Romantic/Horror)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,942

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.94K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ธ.ค. 54 / 22:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น





    เมื่อ ชองยุนโฮ คือคนที่เขาหลงรัก และ คิมแจจุง คือน้องชายฝาแฝดของ คิมยองอุง คนนี้

    คิมแจจุง มี ชองยุนโฮ แต่ คิมยองอุง ไม่มี

    คิมแจจุง ได้เป็นคนรัก ของ ชองยุนโฮ แต่ คิมยองอุง กลับเป็นได้แค่ พี่ชายของคนรัก เท่านั้น



    ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าและหิมะสีขวาที่ยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ผู้คนต่างเดินสวนทางกันไปมาอย่างขวักไขว่
    จะมีก็แต่ใครคนหนึ่งที่ยืนนิ่งไม่ยอมก้าวไปไหนอยู่บนฟุตบาทริมถนนนั้น
    ชายหนุ่มร่างบางผู้มีใบหน้าสวยหวานแต่ร่างกายกลับเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
    ทั้งเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ ทั้งมือขาวๆ สั่นเทานั้นที่ยังคงกำมีดไว้

    ...เปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดง...




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ





      ----- The Last X’mas -----




      เสียงหัวเราะต่อ กระซิกที่ดังคิกคักอยู่ไม่ไกลทำให้ขาเรียวที่เพิ่งก้าวลงจากบันไดชั้นสองมา ต้องหยุดชะงัก ดวงตากลมโตคู่สวยสีเทาจากคอนแทคเลนส์เหม่อมองไปยังคนสองคนที่กำลังคุยเล่น กันอย่างมีความสุขแล้วก็รู้สึกหน่วงๆ ที่หัวใจ อดคิดไม่ได้ว่าไม่น่ารีบลงมาเลย น่าจะอยู่ทำบัญชีข้างบนให้นานกว่านี้ ไม่น่ารีบลงมาเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้เลย ขณะลังเลอยู่ว่าจะเดินกลับขึ้นไปข้างบนแล้วรอให้ใครบางคนกลับไปก่อนค่อยลงมา ใหม่ดีหรือไม่ เรียวตาคมสีน้ำตาลเข้มของใครคนนั้นก็บังเอิญเหลือบมาเห็นเข้าพอดี

      “อ้าว?...หวัดดี”

      ชาย หนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำดูภูมิฐานร้องทักเขา เจ้าของใบหน้าเรียวเล็กหล่อเหลาราวกับรูปสลักนั้นส่งยิ้มมาให้เขา เช่นเดียวกับดวงตาคู่นั้นที่คู่กริบแต่กลับทอประกายอบอุ่นและอ่อนโยนเสมอ ทีนี้...เขาก็ไม่เหลือทางเลือก จำเป็นต้องปั้นหน้ายิ้มบางๆ แล้วทักทายตอบกลับไป

      “หวัดดี”

      “ทำบัญชีเสร็จแล้วเหรอ?”

      เขา พยักหน้าน้อยๆ ตอบใครอีกคนไป ชายหนุ่มรูปร่างบอบบางคนที่ว่าสวมสเวตเตอร์สีครีมรับกันได้ดีกับผิวขาวสีน้ำ นมและใบหน้าหวานๆ นั้น ผมสีดำที่ล้อมกรอบยาวประบ่ากับดวงตาคู่โตสีรัตติกาลยิ่งขับให้ใบหน้าของคนๆ นี้ดูสวยงามยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนๆ

      สองคนนั้นหันมาทักทายเขาแค่นั้น ก่อนจะหันกลับเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองต่อ ทั้งคู่คุยกันเพลินโดยไม่สนใจว่าเขาจะมีตัวตนอยู่ตรงนี้ ทั้งคู่ทำเหมือนว่าที่นี่ วินาทีนี้...โลกทั้งใบมีกันอยู่แค่สองคน

      เขา ได้แต่แอบมองอยู่เงียบๆ ทำทีเป็นเปิดสมุดบัญชีของร้านดูเพื่อตรวจทานอีกที แต่ความจริงแล้วสายตาแอบเหลือบมองผู้ชายตัวสูงคนนั้นที่จิบกาแฟไปก็คลี่ยิ้ม อ่อนโยนและมองใครอีกคนด้วยสายตาอบอุ่นอยู่ตลอด เช่นเดียวกับคนที่ถูกมองและเป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นที่หัวเราะเสียงใสพร้อม กับแก้มขาวที่แดงระเรื่อหน่อยๆ

      สองคนนั้นดูมีความสุข ท่าทางมีความสุขกันมาก ผิดกับเขา...ที่เฝ้ามองภาพเหล่านี้อย่างเจ็บปวด

      เมื่อ ชองยุนโฮ คือคนที่เขาหลงรัก และ คิมแจจุง คือน้องชายฝาแฝดของ คิมยองอุง คนนี้

      ยอง อุงรักยุนโฮ แต่ยุนโฮกลับรักแจจุง ยองอุงอยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มอ่อนโยนและสายตาอบอุ่นเหล่านั้นของยุนโฮ แต่ยุนโฮกลับมอบมันให้กับแจจุงเพียงคนเดียว ยองอุงปรารถนาทั้งตัวและหัวใจของยุนโฮ แต่ยุนโฮก็เลือกแจจุง...ให้แจจุงไปทั้งหมด

      ใครๆ ก็บอกว่ายองอุงกับแจจุงเหมือนกันมาก เหมือนกันราวกับแกะ แต่ยองอุงรู้ดีว่าเราไม่เหมือนกันเลยซักนิด แจจุงเป็นน้องชายที่เกิดทีหลังเขาแปดนาทีมีนิสัยอ่อนหวาน อ่อนโยน น่ารัก มองโลกในแง่ดี ใจดีกับทุกคน...ผิดกับเขาที่เป็นคนตรงๆ คิดอะไรก็แสดงออกมาอย่างนั้น ขวานผ่าซาก มั่นใจในตัวเองและอีโก้สูง ที่สำคัญคือมองโลกในแง่ร้ายและไม่ค่อยแคร์อะไรเท่าไร แจจุงชอบสีขาวหรืออะไรก็ได้ที่สีอ่อนๆ ส่วนยองอุงชอบสีดำ แจจุงยิ้มเก่ง ส่วนยองอุงจะยิ้มเมื่ออยากยิ้ม แจจุงผมสีดำ ดวงตากลมโตคู่นั้นก็เป็นสีดำตามธรรมชาติ ไม่เหมือนยองอุงที่ย้อมผมให้เป็นสีน้ำตาทองและเลือกที่จะใส่คอนแทคเลนส์สี เทา

      อีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่เหมือนกัน ความแตกต่างข้อนี้ที่กัดกินหัวใจให้ต้องรู้สึกเจ็บอยู่ตลอดก็คือ คิมแจจุง มี ชองยุนโฮ แต่ คิมยองอุง ไม่มี คิมแจจุง ได้เป็นคนรัก ของ ชองยุนโฮ แต่ คิมยองอุง กลับเป็นได้แค่ พี่ชายของคนรัก เท่านั้น

      คิด แล้วก็ได้แต่เจ็บหน่วงๆ ที่ก้อนเนื้อตรงหน้าอกข้างซ้าย ยิ่งหัวใจเต้นนานขึ้นเท่าไร ความเจ็บปวดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทุกครั้งที่หัวใจเต้นตุบหนึ่งทีขณะที่เห็นแจจุงกับยุนโฮส่งยิ้มให้กัน หัวเราะอย่างมีความสุขด้วยกัน ทุกครั้ง...ยองอุงก็นึกอยากหายไปจากตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด ไม่อยากเห็นอีกแล้ว ไม่อยากรับรู้รับฟังอีกแล้ว หัวใจบ้าๆ นี่...ถ้ามันเจ็บมากนัก...หยุดเต้นไปเลยซะก็ดี...
      .
      .
      .

      “ยอง อุงทำหน้าเหมือนไม่พอใจผมอีกแล้ว...” เสียงนุ่มกระซิบเบาๆ กับคนรัก พยายามพูดให้ค่อยที่สุดเพื่อไม่ให้ใครอีกคนที่อยู่อีกมุมหนึ่งของเคาน์เตอร์ ได้ยิน คำพูดของยุนโฮทำเอาแจจุงต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะหัวเราะ

      “ยุนโฮพูดแบบนี้อีกแล้ว...แจจุงบอกแล้วไงว่าอย่าคิดมาก ยองอุงไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”

      “จริงๆ นะ...เวลาผมมาหาแจจุงทีไรหรือเวลาเจอกันทีไร ยองอุงก็แทบไม่คุยกับผมเลย ติดจะเมินๆ ด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่ยิ้มให้นิดๆ...ตอนแรกคิดอยู่ว่าเป็นเพราะไม่สนิทรึเปล่าถึงได้ ทำท่าห่างเหินกันขนาดนั้น แต่นี่ก็ผ่านมาจะปีนึงแล้วนะที่เราคบกัน...ไม่รู้ยองอุงเค้าไม่ชอบใจอะไรผม รึเปล่า”

      “คิดมากไปแล้ว...ไม่เอาน่า...”

      “บางที...ยองอุงเค้า อาจจะโกรธผมก็ได้ที่ผมมาแย่งน้องชายสุดที่รักของเค้าไป” ได้ยินแบบนี้แล้วแจจุงก็หัวเราะเสียงใสออกมาอีก อดขำไม่ได้กับความคิดมากเกินเหตุของร่างสูงตรงหน้า

      “แย่งยังไง?”

      “ก็เมื่อก่อนเป็น ยองอุง กับ แจจุง ใช่มั๊ยล่ะ? แต่ตอนนี้กลับเป็น ยุนโฮ กับ แจจุง แทนไง...แล้วอีกอย่างนะ เมื่อก่อนเป็นยองอุงกับแจจุงที่ตัวติดกัน แต่ตอนนี้เป็นยุนโฮกับแจจุงที่ตัวติดกันแทน...ตัวติดกันแนบแน่น แทบไม่มีอากาศให้หายใจเลย...”

      “บ้า...” เสียงหวานว่าอย่างเขินๆ ก่อนจะตีแขนลงโทษคนที่เอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่เขาอยู่ได้ไปหนึ่งที ยุนโฮก็เป็นซะแบบนี้...ถึงจะอ่อนโยน อบอุ่น...แต่ก็มีบางเวลาที่ดูเจ้าเล่ห์ ไม่น่าไว้ใจ แล้วก็ชอบพูดจาสองแง่สองง่ามให้เขารู้สึกเขินอยู่เรื่อยๆ

      พอ เห็นร่างบางตรงหน้าเขินยุนโฮก็หัวเราะ ยิ่งเห็นแก้มขาวๆ นั้นขึ้นสีแดงระเรื่องน่ามอง ยุนโฮก็ยิ่งชอบใจ นั่งจิบกาแฟไปจ้องแจจุงไป จนร่างบางต้องก้มหน้างุดหลบสายตา แก้มแดงหนักกว่าเก่า

      “มองอยู่ได้...เลิกมองได้แล้ว!...”

      “มีแฟนน่ารักก็ต้องมองสิ ยิ่งเขินยิ่งน่ารักนะครับ...รู้รึเปล่า?”

      “พูดจาเลอะเทอะ...รีบดื่มกาแฟให้หมดแล้วไปทำงานต่อเลยไป”

      “ไล่เหรอ?”

      “อื้อ...ไล่”

      “โหยย...แจจุงใจร้ายจังครับ”

      “อย่ามาทำหน้าอ้อนเป็นเด็กๆ นะยุนโฮ...ไม่เห็นน่ารักเลย ฮ่าๆๆ”

      “แจจุงอ่า...”

      “จะหมดเวลาพักแล้วรีบกลับไปทำงานเถอะนะ...เดี๋ยวเข้าสายเจ้านายดุเอา”

      “ก็อยากอยู่กับแจจุงอีกนิดนี่นา...”

      “เดี๋ยวเลิกงานก็เจอกันน่า...นะ...”

      “ก็ได้ๆ ยอมไปก็ได้....แล้วตอนเย็นผมจะรีบมารับไปฉลองคริสต์มาสอีฟนะครับ ปิดร้านรอเลยนะ”

      “อื้อ...แล้ว เจอกัน” ร่างบางยิ้มหวานรับคำ ก่อนจะเดินออกไปส่งร่างสูงที่หน้าร้าน แจจุงโบกมือบ๊ายบายยุนโฮที่เดินกลับไปทำงานที่ตึกสูงๆ ตรงหัวมุมถนน

      ยุ นโฮเป็นพนักงานธนาคารใกล้ๆ กับร้านกาแฟที่แจจุงเป็นเจ้าของร้านกับยองอุง ทุกวันพอยุนโฮทานมื้อเที่ยงเสร็จก็จะแวะมาซื้อกาแฟที่ร้านจนเป็นลูกค้าประจำ พอเจอหน้ากันบ่อยขึ้นก็เริ่มมีการทักทาย พอเริ่มทักทายก็เริ่มมีการทำความรู้จัก พอเริ่มทำความรู้จักก็เริ่มมีความสนิทสนม จนกระทั่งความสนิทสนมแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีๆ ระหว่างคนสองคน

      แม้ ระยะเวลาที่ยุนโฮกับแจจุงเริ่มคบกันจริงจังจะไม่นาน ยังไม่ถึงปีดีด้วยซ้ำ แต่ช่วงเวลากว่าเจ็ดเดือนที่ยุนโฮพยายามเอาชนะใจแจจุง กว่าแจจุงจะยอมตกลงปลงใจคบเป็นคนรักกัน นั่นก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่ายุนโฮจริงใจกับแจจุงแค่ไหน ยุนโฮเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย วันแรกที่คบกันอ่อนโยนและอบอุ่นยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม วันนั้นเริ่มต้นดูแลแจจุงเป็นอย่างดีแค่ไหน ผ่านมาเกือบหนึ่งปียุนโฮก็ไม่เปลี่ยน เผลอๆ จะดูแลดีกว่าเดิม ทั้งรักทั้งหลงแจจุงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ...

      อย่างวันนี้ที่เป็นวัน คริสต์มาสอีฟ ยุนโฮก็บอกกับแจจุงตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วว่าจะพาไปฉลองกันสองคน ยุนโฮบอกด้วยซ้ำว่าจะมีเซอร์ไพรส์ นึกแล้วแจจุงก็อมยิ้ม เพราะยุนโฮเป็นคนโรแมนติค ไม่ใช่แค่วันเทศกาลแบบนี้ แต่ยุนโฮมักทำให้ทุกวันของเราเป็นวันสุดพิเศษเสมอ

      เพราะแบบนี้ล่ะนะ...ถึงได้รักมากขึ้นทุกวัน
      .
      .
      .

      ตอน นี้จะหกโมงครึ่งแล้ว...แจจุงปิดร้านเสร็จเรียบร้อยและยืนรอให้ยุนโฮมารับ อยู่ที่หน้าร้าน จริงๆ แล้วร้านกาแฟของแจจุงเปิดแปดโมงเช้าปิดสองทุ่ม แต่เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษ คุณเจ้าของร้านมีเดทกับแฟน ร้านกาแฟที่มีชื่อที่สุดในย่านนี้เลยปิดบริการเร็วกว่าทุกวัน ตอนแรกยองอุงก็อาสาว่าจะอยู่เฝ้าร้านแล้วให้แจจุงไปเที่ยวกับยุนโฮอย่างสบาย ใจอยู่หรอก แต่เขาไม่อยากเอาเปรียบยองอุง ในเมื่อเขาหนีไปเที่ยวได้ ยองอุงก็ควรได้พักเหมือนกัน ก็เลยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะปิดร้านเร็ว และให้พนักงานในร้านทุกคนไปฉลองคริสต์มาสอีฟกันได้ตามสบาย

      ร่างบาง ยืนห่อตัวอยู่ในเสื้อโค้ทตัวหนา ถูมือไปพลางเป่าปากไปพลางเพื่อสร้างไออุ่นให้ตัวเอง อากาศเย็นลงเรื่อยๆ ยิ่งมีหิมะตกแบบนี้ก็ยิ่งหนาว แต่ถึงจะหนาวแค่ไหนแจจุงก็ยังรู้สึกดี แจจุงชอบหิมะ แจจุงชอบสีขาว แจจุงชอบหน้าหนาว ยิ่งเป็นหน้าหนาวที่แจจุงมียุนโฮอยู่ข้างๆ คอยจับมือ คอยกอด คอยทำให้อุ่น แจจุงก็ยิ่งชอบ...ยิ่งรัก

      “แจจุงครับ!” เสียงเรียกคุ้นหูที่ดังอยู่ไม่ไกลทำให้ต้องหันไปมอง ปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานเมื่อเห็นว่าคนที่รอกำลังวิ่งตรงมาหา

      “โทษทีที่มาช้านะ พอดีติดธุระนิดหน่อย”

      “อื้อ...ไม่เป็นไร แจจุงก็เพิ่งปิดร้านเสร็จเหมือนกัน”

      “แล้วยองอุงล่ะครับ?”

      “กลับไปแล้วล่ะ”

      “เห? ยองอุงไม่ไปเที่ยวกับแฟนบ้างเหรอ? นี่มันวันเทศกาลนะ”

      “ไม่รู้สิ...แจจุงถามอะไรยองอุงก็ไม่เห็นยอมบอกเลย พอถามว่าคืนนี้จะไปฉลองที่ไหนยองอุงก็ไม่ตอบ...”

      “อ่า...แย่จังนะ”

      “นั่นสิ...แจจุงเป็นห่วงยองอุงอยู่เหมือนกัน กลัวว่ายองอุงจะเหงาอยู่คนเดียว...”

      “ไม่ เอาครับไม่เอา...วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟนะ เรากำลังจะไปฉลองกัน ยิ้มไว้สิครับ” ว่าแล้วก็แกล้งดึงแก้มนิ่มๆ ของแจจุงให้ยืดออกทั้งสองข้างจนร่างบางต้องร้องโอ๊ย ก่อนจะเอาคืนด้วยการดึงแก้มยุนโฮบ้าง ทั้งคู่แหย่กันไปแหย่กันมา แล้วก็จบด้วยเสียงหัวเราะสดใส

      “ไปดินเนอร์กันเถอะ ผมหิวแล้ว” แจจุงพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนทั้งสองคนจะเดินจับมือกันไปตามทางเดินที่ขวักไขว่ด้วยผู้คน ท่ามกลางแสงไฟหลากสีที่ประดับประดาตกแต่งในเทศกาลวันคริสต์มาสและหิมะที่ โปรยปราย

      ยุนโฮกับแจจุงไปดินเนอร์กันในร้านอาหารสุดหรู บรรยากาศแสนโรแมนติค อาหารก็อร่อย แถมเพลงก็เพราะ ยิ่งกว่านั้นยุนโฮยังเริ่มต้นเซอร์ไพรส์แรกด้วยการแอบจ้างนักดนตรีของทาง ร้านไว้ให้เล่นเปียโนเป็นเพลงโปรดของแจจุง ร่างบางถึงกับตกใจแทบทำส้อมกับมีดร่วง เมื่อนั่งทานอยู่ดีๆ นักดนตรีบนเวทีก็พูดขึ้นว่า ‘เพลงนี้...พวกเราขอเล่นให้กับคุณคิมแจจุงทางด้านโน้น ผู้ชายที่น่ารักและน่าอิจฉาที่สุด...เจ้าของหัวใจของคุณชองยุนโฮครับ’ แล้วเสียงเปียโนเพราะๆ ก็ดังขึ้น บทเพลงของ Yiruma กับ River Flows in You

      แจ จุงนั่งฟังเพลงไปก็มองตายุนโฮไป ยุนโฮเอื้อมมือมากุมมือเขาไว้บนโต๊ะแบบไม่อายสายตาใครหน้าไหน ยุนโฮไม่เคยแคร์ว่าใครจะมองยังไงที่เขามีคนรักเป็นผู้ชาย เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยกลัวกับสิ่งที่จะตามมาเมื่อบอกใครต่อใครว่าคนที่เขารักคือ...คิมแจจุ ง...

      ขอแค่ได้แสดงความรัก แค่ทำให้แจจุงได้รับรู้ ว่ายุนโฮคนนี้รักมาก...รักมากที่สุด...แค่นั้นก็พอ

      เสียง เปียโนเพลง River Flows in You ดังไปได้แค่ครึ่งเพลงก็เงียบลง พร้อมกับนักดนตรีคนนั้นที่ถือกีตาร์โปร่งเดินลงมาที่โต๊ะของเรา เขายื่นกีตาร์ส่งให้ยุนโฮ แล้วยุนโฮก็วางมันบนตัก ก่อนจะเริ่มเล่นมัน River Flows in You ดังขึ้นอีกครั้งในเวอร์ชั่นกีตาร์โดยยุนโฮ ร่างสูงคลี่ยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ เช่นเดียวกับเรียวตาคมคู่นั้นที่ทอประกายอ่อนโยน แจจุงมองเห็นความรักมากมายของคนตรงหน้าในดวงตาคู่นั้นที่มอบให้เขา แจจุงรู้สึกได้...จนเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร่างบางยิ้มหวานรับฟังเพลงนั้น ดวงตาสีดำสนิทคู่สวยเอ่อคลอด้วยน้ำตาและเปี่ยมด้วยรักที่มีให้ใครอีก คน...ไม่ต่างกัน

      เมื่อบทเพลงไพเราะสิ้นสุดลง เสียงปรบมือดังเกรียวกราวก็ดังลั่นก้องร้านอาหารแห่งนั้นจนยุนโฮต้องก้มหัว ยิ้มเขินๆ ขอบคุณทุกคน ใครๆ ต่างก็ประทับใจในความโรแมนติคของร่างสูง ใครๆ ต่างก็พากันอิจฉาแจจุงที่ได้รับความรักจากผู้ชายคนนี้มากมายขนาดนั้น

      “ผม ใช้เวลาฝึกตั้งนาน...เพื่อวันนี้ เพื่อแจจุงเลยนะ...” ยุนโฮพูดยิ้มๆ เขาส่งกีตาร์คืนนักดนตรีของทางร้าน ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของแจจุงไว้ทั้งสองข้าง

      “ชอบมั๊ยครับ?”

      “ชอบ...ชอบ ที่สุดเลย...ขอบคุณมากนะยุนโฮ” แจจุงยังคงยิ้มหวาน รู้สึกรักคนตรงหน้าจนพูดอะไรไม่ออก คำว่ารักเพียงคำเดียวคงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกทั้งหมดที่มีในหัวใจให้ยุ นโฮเข้าใจได้

      ยิ่งถูกรักก็ยิ่งรู้สึกรัก...
      รัก...รัก...รัก...รักจะตายอยู่แล้ว...

      หลัง จากจบโปรแกรมดินเนอร์ที่สุดแสนโรแมนติค ยุนโฮกับแจจุงก็ออกจากร้านอาหารแห่งนั้นมาพร้อมกับคำอวยพรของทุกคน ใครๆ ก็ชื่นชมในความรักของพวกเขา ทุกคนล้วนอวยพรขอให้ทั้งสองคนมีความสุขและรักกันตลอดไป

      ยุนโฮกับแจจุ งเดินจูงมือกันไปเรื่อยเปื่อย เดินเล่นตามท้องถนนที่ตกแต่งประดับประดาด้วยไฟหลากสี กล่องของขวัญ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม เจอมุมไหนสวยๆ ก็ถ่ายรูปคู่กัน เจอของกินแผงลอยข้างทางร้านไหนน่ากินก็ซื้อ ผลัดกันป้อนผลัดกันกินอย่างมีความสุข

      จนเวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ยุนโฮพาแจจุงมายังลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ณ ลานแห่งนี้มีต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยกล่องของขวัญและตุ๊กตาหิมะขนาดใหญ่ที่เอามาตกแต่งเคียงข้าง ยุนโฮกับแจจุงจะเคาน์ดาวน์เข้าสู่วันคริสต์มาสด้วยกันที่นี่ เราจะจับมือกันไว้และนับถอยหลังต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขนี้ด้วยกัน

      รอ ไม่นาน... เสียงนาฬิกาดิจิตอลที่ทางห้างตั้งไว้เพื่อการนับถอยหลังก็ดังบอกเวลา ทุกคนตะโกนนับสิบ เก้า แปด เจ็ด หก ห้า สี่ สาม สอง และหนึ่งพร้อมกัน แล้วเสียง “Merry Christmas” ก็ถูกเปล่งออกมาดังลั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเฮและเสียงพลุที่ถูกจุดเฉลิมฉลอง ยุนโฮกับแจจุงกอบกุมมือของกันและกัน และเงยหน้าขึ้นมองพลุหลากสีที่สวยงามเหล่านั้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

      “เมอร์รี่คริสต์มาสนะครับแจจุง”

      “เมอร์ รี่คริสต์มาสยุนโฮ” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่แจจุงจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า มันเป็นผ้าพันคอผืนหน้าสีเขียวเข้ม สีโปรดของยุนโฮ...ที่แจจุงตั้งใจถักให้ตั้งแต่ต้นเดือนเพื่อเป็นของขวัญให้ กับร่างสูงโดยเฉพาะ

      “ของขวัญวันคริสต์มาส...ถึงจะไม่เซอร์ไพรส์เท่า ของขวัญที่ยุนโฮให้ แต่แจจุงก็ตั้งใจถักมากๆ เลยนะ” เสียงหวานเอ่ยยิ้มๆ รอยยิ้มงดงามที่เห็นแล้วทำให้ยุนโฮต้องยิ้มตามได้เสมอ

      “พันผ้าพันคอ ให้ด้วยสิครับ” แจจุงหัวเราะเบาๆ กับหน้าอ้อนๆ ของร่างสูงตรงหน้า แต่ก็ยอมพันผ้าพันคอให้ยุนโฮอยู่ดี ใช้มือจัดนิดหน่อยให้เข้าที่ ผ้าพันคอสีเขียวผืนนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายร่างสูงอย่างลงตัว

      “อุ่น มากๆ เลย...ขอบคุณครับ” ไม่ขอบคุณเปล่า...ไม่ใช่แค่คำพูดแต่ยุนโฮยังขอบคุณด้วยการกระทำ ร่างสูงโอบเอวร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากเนียนให้คนตรงหน้าต้องหลับตาพริ้มรับสัมผัส อ่อนโยนทั้งที่หน้าร้อนผ่าว

      “ที่จริง...ผมยังมีของขวัญอีกอย่างจะให้แจจุง”

      “เห? ยังมีอีกเหรอ? ยุนโฮจะเซอร์ไพรส์แจจุงเยอะไปแล้วนะ”

      “แจ จุงหลับตาแป๊บนึงนะครับ” ร่างสูงยิ้ม แล้วกระซิบข้างหูของคนในอ้อมกอดแผ่วเบา แจจุงยอมหลับตาแต่โดยดี เวลาผ่านไปไม่ถึงสองนาที ยุนโฮกระซิบบอกอีกครั้งว่าลืมตาได้

      พอแจจุ งลืมตา ร่างบางก็ต้องตกใจเมื่อใครต่อใครก็ไม่รู้ถือดอกกุหลาบสีแดงคนละดอกยืนล้อม รอบเขากับยุนโฮอยู่เต็มไปหมด ก่อนที่คนพวกนั้นจะเดินเข้ามาหาแจจุงทีละคน ส่งดอกกุหลาบสีแดงในมือเหล่านั้นให้แจจุง แล้วทุกคนก็พูดเหมือนกัน พูดประโยคเดียวกันตอนให้กุหลาบแจจุงว่า ‘ชองยุนโฮฝากมาให้...เมอร์รี่คริสต์มาส’

      จากหนึ่งดอกเป็นสองดอก จากสองดอกเป็นสามดอก จากสี่ดอกเป็นห้า หก เจ็ดและแปด ดอกกุหลาบในมือแจจุงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนร่างบางแทบถือไม่ไหว แจจุงต้องกอดเอาไว้ให้ยุนโฮหัวเราะและเข้ามาช่วยถือ กระทั่งกุหลาบสีแดงดอกสุดท้ายถูกมอบให้แจจุง เท่าที่แอบนับอยู่ในใจ ทั้งหมด...ที่ยุนโฮมอบให้ก็เป็นจำนวนสี่สิบดอกพอดี

      “ดอกกุหลาบสีแดง สื่อความหมายถึงความรัก...ดอกกุหลาบสีแดงสี่สิบดอก สื่อความหมาย...ถึงความรักของผมที่เป็นรักแท้...รักแท้ที่มอบให้แจจุงคน เดียว...”

      เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยคำพูดหวานหูให้หัวใจคนฟังพองโตจนแทบ ระเบิด ตอนนี้แจจุงมีความสุขมาก มีความสุขจนแทบน้ำตาไหล ยุนโฮรักเขามากเกินไป ความรักที่ยุนโฮมอบให้มันมากเกินไปจนแจจุงกำลังจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไม่เคยคิด...ว่าเกิดมาจะมีใครมอบความรักให้มากมายขนาดนี้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ...

      “ขอบคุณนะยุนโฮ...แจจุง...ฮึก......แจจุงขอบ คุณมากๆ ขอบคุณมากจริงๆ...ขอบคุณที่รักแจจุงนะ...” แจจุงร้องไห้ออกมาจนได้ มันตื้นตัน มันอิ่มเอิบที่หัวใจ น้ำตาที่ไหลรินออกมา...คือน้ำตาที่เปี่ยมด้วยความสุข

      ผมรักแจจุงนะครับ” คำว่ารักแผ่วเบาถูกกระซิบที่ข้างหู

      แจจุงก็รักยุนโฮ...รักมากที่สุด...” เอ่ยเสียงหวาน ก่อนจะคลี่ยิ้มงดงาม ยุนโฮยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้แจจุงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกดจูบนุ่มนวลลงบนหน้าผากเนียนอีกครั้ง

      “ขอจูบได้มั๊ย?”

      “อื้อ...” แจจุงอมยิ้มเขินๆ พยักหน้า แล้วริมฝีปากของยุนโฮก็เลื่อนลงมาทาบทับ สัมผัสกัน...

      จูบ หอมหวานที่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งความรักที่โอบล้อมอยู่รอบตัวของทั้งคู่ ดำเนินไป... ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ที่แห่งนั้น ท่ามกลางแสงจันทร์ แสงไฟ และพลุหลากสีที่จุดเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ยุนโฮกับแจจุงยังคงยืนจูบกันต่อไป เช่นเดียวกับหิมะสีขาวที่ยังคงโปรยปรายไม่มีที่สิ้นสุด...
      .
      .
      .

      หลัง จากจูบกันใต้ต้นคริสต์มาสยักษ์อยู่เนิ่นนาน ยุนโฮก็พาแจจุงกลับมาที่คอนโดของเขา วันนี้เขาขออนุญาตแจจุงแล้วว่ากอดได้มั๊ย ซึ่งแจจุงก็ก้มหน้ายิ้มเขินๆ ตอบว่า ‘เห็นแก่ของขวัญคริสต์มาสที่ให้...ยอมให้กอดก็ได้...’

      ทั้ง คู่เดินเข้าไปในห้อง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจจุงมาที่นี่ เขามาค้างที่คอนโดของยุนโฮอยู่หลายครั้งนับตั้งแต่เราคบกันอย่างจริงจัง แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจะถูกยุนโฮกอด...

      ร่างสูงนำเข้าไปเก็บ ของในห้องนอนเงียบๆ แจจุงมองตามแผ่นหลังกว้างของยุนโฮไป ยิ่งมองแจจุงก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลผู้ชายคนนี้ ยุนโฮมีรูปร่างสูงโปร่งสมส่วน แผ่นหลังกว้างๆ นั่นทำให้เขารู้สึกดี ทำให้เขารู้สึกอยากพักพิง อยากใช้เป็นที่พึ่งเสมอ

      แจจุงอมยิ้ม แล้วเดินเข้าไปสวมกอดยุนโฮที่ถอดเสื้อสูทตัวนอกออกแล้วจากด้านหลัง ร่างสูงเหลียวมองคนที่ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของเขาแล้วก็คลี่ยิ้มเอ็นดู ยุนโฮหันหน้ากลับมาหาแจจุง ก่อนจะยกมือเกลี่ยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าหวานขึ้นทัดหูให้ร่างบางอย่างอ่อนโยน

      “อ้อนเหรอครับ?”

      “อื้อ...อ้อน...อยากให้ยุนโฮกอด...”

      “หืม?”

      “แจ จุงอยากให้ยุนโฮกอด...ตอนนี้เลย...” กระซิบเสียงเบาแค่นั้น แล้วริมฝีปากอิ่มก็สัมผัสลงที่มุมปากของร่างสูง แจจุงกดจูบลงไป จูบย้ำซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น จากมุมปากไล่มาจนถึงปลายคาง เรื่อยมาจนถึงเรียวคอ แจจุงขบเม้มและออกแรงดูดจนผิวเนื้อของยุนโฮเป็นรอยแดงๆ สีกุหลาบหนึ่งที ก่อนจะอมยิ้มพอใจ ท่ามกลางสีหน้าประหลาดใจของร่างสูง ปกติแจจุงไม่เคยเป็นแบบนี้ แจจุงไม่เคยเริ่มก่อน...

      “แจจุงครับ...” ร่างบางไม่หยุดแค่ที่คอ ริมฝีปากสีสวยเลื่อนมาที่แผ่นอกกว้าง มือขาวๆ พยายามปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างสูง แต่ก็ถูกเจ้าของเสื้อนั้นยื้อเอาไว้

      “แจจุง...ทำไมวันนี้ใจร้อนจังเลย?”

      “แจจุงอยากให้ยุนโฮกอด...แจจุงต้องการยุนโฮ...”

      คน ตรงหน้าตอบเสียงพร่าและจ้องมองมาด้วยสายตาร้อนแรงแบบที่ยุนโฮไม่เคยเห็น แจจุงเป็นฝ่ายจูบยุนโฮก่อนอีกครั้ง กลีบปากนุ่มนิ่มบดเบียดเรียวปากหยักอย่างเร่าร้อน พร้อมกับมือขาวๆ คู่เดิมที่ไล่ปลดกระดุมเสื้อร่างสูงทีละเม็ด กระทั่งเสื้อเชิ้ตตัวนั้นถูกถอดออก เผยให้เห็นแผ่นอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามสมส่วนที่แจจุงหลงใหล ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนยุนโฮยังตกใจ...

      “เดี๋ยวครับแจจุ ง...” ยุนโฮพยายามรั้งมือร่างบางที่เลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขา แจจุงไม่ฟังเสียงและไม่สนใจการคัดค้านนั้น ร่างบางปัดมือยุนโฮออก ก่อนจะลงโทษร่างสูงด้วยการฝังฟันคมๆ ลงบนลาดไหล่กว้าง กัดไปหนึ่งทีอย่างหมั่นเขี้ยว

      “แจจุง...ช้าๆ ก่อนครับ หยุดก่อน!...”

      เข็มขัด ของยุนโฮถูกถอดออกไปแล้ว และแจจุงก็กำลังจะจัดการกับซิบกางเกงของเขา ตอนนี้ยุนโฮเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก เขาตกใจที่แจจุงเป็นแบบนี้ ทุกทีที่เรากอดกันเขาจะเป็นฝ่ายเริ่ม ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้า นุ่มนวล และอ่อนโยน...ราวกับว่าเราสองคนอยากจะซึมซับความสุขนี้ไว้ให้มากที่สุดในทุก วินาที แจจุงที่ขี้อายจะเอาแต่นอนหน้าแดงจนเขาเห็นแล้วอดอยากแกล้งไม่ได้ และแจจุงที่แสนขี้อายคนนั้นไม่มีทางรุกเร้าเขาอย่างร้อนแรงและโหยหาแบบนี้ แน่ๆ...

      แล้ววันนี้แจจุงคนนั้นของเขาหายไปไหน? แจจุงเป็นอะไรไป?

      “แจจุงครับ!...หยุด!...”

      “ทำไม ล่ะยุนโฮ? ยุนโฮไม่ต้องการแจจุงเหรอ?...แจจุงต้องการยุนโฮนะ...” ว่าแล้วก็ล้วงมือเข้าไปในชั้นในของร่างสูง หวังจะกระตุ้นอารมณ์และความต้องการของยุนโฮให้ถึงที่สุด

      “แจจุง!”

      “แจจุงต้องการยุนโฮตอนนี้...เดี๋ยวนี้...”

      “คิมแจจุง!”

      “อยากให้ใส่เข้ามาแรงๆ...อยากมากๆ เลย...”

      “พอได้แล้ว!!”

      “โอ๊ย!” ร่างบางถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อถูกผลักลงไปกับเตียง แจจุงหันขวับมามองยุนโฮด้วยสายตาตัดพ้อ ผิดกับร่างสูงที่ไม่ได้มีแววตาสำนึกผิดอยู่ในเรียวตาคมคู่นั้นเลยซักนิด

      “ยุนโฮผลักแจจุงทำไม!?” เสียงหวานร้องถามออกไปลั่นอย่างเอาเรื่อง แต่ประโยคที่คนตรงหน้าตอบกลับมากลับทำเอาเขาถึงกับตัวชา

      คุณไม่ใช่แจจุง!

      “พูดบ้าอะไรน่ะยุนโฮ!? นี่แจจุงนะ!!”

      “คุณไม่ใช่แจจุงของผม!”

      “ถ้าไม่ใช่แจจุงแล้วจะเป็นใครล่ะฮะ!?”

      คุณคือยองอุง...” สิ้นเสียงนุ่ม ห้องทั้งห้องก็ถูกปกคลุมด้วยความเงียบ แจจุงนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้น ยุนโฮเองก็จ้องร่างบางไม่วางตา สายตาคาดคั้นนั้นทำเอาใจสั่นบอกไม่ถูก

      “ยุนโฮ...ยุนโฮพูดอะไร...นี่ แจจุงไง แจจุงของยุนโฮ...แจจุงคนรักของยุนโฮ...ไม่ใช่ยองอุง...” ร่างบางพยายามยิ้มสู้ เสียงหวานเบาลงและพยายามเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้า แจจุงลุกขึ้นเดินเข้ามาหาร่างสูง มือขาวตั้งใจจะแตะลงบนแขนแกร่งแต่กลับถูกมือหนานั้นปัดออกอย่างไร้เยื่อใย

      “ไม่ใช่...”

      “ยุนโฮ...”

      “ยังไงก็ไม่ใช่!”

      “ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ!?”

      “แจ จุงไม่ใช่คนแบบนี้...แจจุงคนนั้นไม่เคยทำแบบนี้กับผม แจจุงใจไม่กล้าพอ...ถึงจะรักผมมากแค่ไหน ต้องการผมแค่ไหน...แต่แจจุงไม่มีวันพุ่งเข้าหาผมก่อนแบบนี้แน่!”

      “คนเรามันเปลี่ยนกันได้!!”

      “แจจุงไม่เคยขึ้นเสียงใส่ผมแบบที่คุณกำลังทำอยู่”

      “ก็แจจุงโมโหที่ยุนโฮไม่เชื่อแจจุง!”

      “ที่สำคัญ...เวลาที่ผมจูบคุณมันไม่เหมือนเวลาผมจูบแจจุง...จูบของคุณไม่เหมือนของแจจุง...”

      “............................”

      มันเป็นจูบที่ไม่มีความรัก...จูบแล้ว...ผมไม่ได้รู้สึกรักคุณเหมือนที่รักแจจุงเลย...” คำพูดแสนเย็นชาทำเอาร่างทั้งร่างแข็งทื่อ รู้สึกเหมือนมีใครเอาไม้หน้าสามมาฟาดแรงๆ ที่หัว จนสมองแทบไม่รับรู้อะไร แทบอยากจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นที่บาด ลึกทำร้ายหัวใจให้เจ็บแสบไปหมด น้ำตากำลังจะไหล อีกนิดเดียว...น้ำตาแห่งความปวดร้าวก็จะไหลออกมาแล้ว

      “ทำไม...รักมากใช่มั๊ย.......รักมันมากใช่มั๊ย...”

      “ยอมรับแล้วสินะว่าคุณคือยองอุง” ร่างบางนิ่ง ไม่ตอบ...ซึ่งยุนโฮถือว่านั่นเป็นคำตอบรับ

      “คุณเอาแจจุงไปไว้ที่ไหน ตอนนี้แจจุงอยู่ที่ไหน”

      “.......................”

      “ผมถามว่าคุณเอาแจจุงไปไว้ที่ไหน!”

      “ไม่ว่ายังไง...คุณก็หามันไม่เจอหรอกยุนโฮ...”

      “คิม ยองอุง!” เสียงนุ่มตวาดลั่นแต่กลับไม่ได้ทำให้ใครอีกคนสะทกสะท้านเลยซักนิด ยองอุงคลี่ยิ้มร้าย รอยยิ้มที่ยุนโฮเห็นแล้วรู้สึกหวาดหวั่นบอกไม่ถูก เขาไม่รู้จักยองอุงดีพอ เขาไม่รู้ว่าคนๆ นี้จะกล้าทำอะไรแจจุงที่เป็นถึงน้องชายฝาแฝดได้บ้าง

      “ทำไมล่ะ...ทำไมถึงรักมันขนาดนั้น...ทำไมถึงรักมัน มองเห็นแต่มัน...แต่กลับไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมองกลับมาที่ฉัน...”

      “คุณ...คุณพูดอะไร...”

      “ฉันรักคุณนะยุนโฮ...รักตั้งแต่แรกเห็น รักก่อนมันด้วยซ้ำ...แล้วทำไมล่ะ...ทำไมคุณถึงเลือกมัน...”

      “ผม ขอโทษที่ต้องบอกว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้...คุณมาพูดตัดพ้อผมตอนนี้ มันก็เสียเวลาเปล่าเพราะคนที่ผมรักคือแจจุง...ยังไงผมก็เลือกแจจุง”

      “เป็นฉันไม่ได้เหรอยุนโฮ...ไม่ใช่มัน...แต่เป็นฉันไม่ได้เหรอ...”

      “เข้าใจผมเถอะยองอุง ผมทำไม่ได้...บอกมาเถอะว่าตอนนี้แจจุงอยู่ที่ไหน”

      “เป็นฉันเถอะนะ...เลือกฉันเถอะ...”

      “ยองอุงบอกผมมา”

      “ได้โปรด...ยุนโฮ...”

      “บอกผมเดี๋ยวนี้!”

      “แล้ว ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ล่ะ!? ฉันมีอะไรไม่เหมือนมันตรงไหน! ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้!!” ในที่สุดยองอุงก็หมดความอดทน เสียงทุ้มหวานไม่ต่างอะไรจากน้ำเสียงของแจจุงร้องตะโกนออกมาลั่น พร้อมน้ำตาที่หลั่งรินจากดวงตาคู่สวยด้วยความคับแค้นใจ ยองอุงร้องไห้ แต่แววตากลับไม่มีแม้ความโศกเศร้า มันมีแต่ความเจ็บปวด โกรธแค้น และเกลียดชัง...

      “ทั้งๆ ที่ฉันมีทุกอย่างเหมือนมัน...ฮึก......หน้าตาก็เหมือนมัน รูปร่าง น้ำเสียง...ทุกอย่าง...ฮึก...อึก......ฉันเหมือนมันทุกอย่าง...แล้วทำไมถึง ไม่เป็นฉัน! ทำไมคนที่คุณรักถึงไม่ใช่ฉัน!! ทำไม!!!”

      “ผมจะบอกอะไร ให้นะ...คุณไม่เหมือนแจจุงเลยซักนิดยองอุง ไม่เหมือนเลยแม้แต่นิดเดียวโดยเฉพาะที่ตรงนี้...” ยุนโฮชี้ที่หน้าอกข้างซ้าย บริเวณที่เป็นที่อยู่ของ...หัวใจ...

      “และ เพราะความแตกต่างนี้นี่แหละที่ทำให้ผมรักเขา...ไม่ใช่คุณ...” เอ่ยเสียงเย็นแค่นั้น ก่อนจะทำท่าจะเดินออกจากห้องไป เขาต้องไปตามหาแจจุง ไม่รู้ว่ายองอุงเอาแจจุงไปไว้ที่ไหน แต่ในเมื่อถามแล้วไม่ยอมตอบ ยุนโฮก็คิดว่าไปตามหาเองน่าจะวุ่นวายน้อยกว่า ยิ่งคุยกันยองอุงก็ยิ่งพูดไม่รู้เรื่อง จะทำให้เสียเวลาเปล่าๆ

      “ยุนโฮ...” แต่แล้วเสียงหวานสั่นเครือของคนข้างหลังก็รั้งเขาไว้

      “คุณจะไม่เลือกฉันจริงๆ...ใช่มั๊ย”

      “ใช่” ตอบสั้นๆ อย่างเย็นชาเพียงแค่นั้น แล้วร่างสูงก็หันหลังเดินจากไป แต่เดินไปได้ไม่ถึงสามก้าว ยุนโฮก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นปราดจากด้านหลังมาที่ท้อง มันเป็นความเจ็บปวดจากของมีคมที่ทิ่มแทงผิวกายของเขาจนทะลุเข้าไปถึงภายใน ยังไม่ทันจะตั้งสติดีเท่าไร คนข้างหลังก็กระชากของสิ่งนั้นออก พร้อมกับร่างของเขาที่ทรุดฮวบลงไปนอนกองที่พื้น

      เมื่อเงยหน้าขึ้นถึง ได้เห็นว่าเป็นยองอุงที่ถือมีดสีเงินคมปลาบนั้นอยู่ มีดที่เปื้อนไปด้วยเลือด...เลือดของเขาเอง ยองอุงก้มลงมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาและแววตาไร้ความรู้สึก ไม่มีความรักอยู่ในนั้น ไม่มีความสงสารหรือความเห็นใจ ไม่มี...แม้แต่ความปราณี...

      “ทะ...ทำไม...” ยุนโฮพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดถามออกไป คำตอบที่ได้รับเป็นรอยยิ้มร้ายกาจที่ส่งมาให้ก่อน

      “ก็รักกันมากไม่ใช่เหรอ...” เอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะขึ้นนั่งคร่อมร่างสูงที่นอนสิ้นท่าอยู่

      คิมแจจุงมันตายไปแล้ว...เห็น รักกันมาก...เลยจะสงเคราะห์ให้ไปอยู่ด้วยกันไง!!” ยองอุงตวาดลั่น ก่อนจะปักมีดแหลมคมนั้นลงบนหน้าท้องของยุนโฮจนเลือดทะลักออกมา ร่างสูงกระตุกหายใจ แต่ยองอุงก็ไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น เขาคลี่ยิ้ม ก่อนจะจ้วงแทงคนที่ตัวเองบอกว่ารักนักหนาอีกที...อีกที...และอีกที...

      ยอง อุงจำไม่ได้ว่าเขาแทงยุนโฮไปกี่ครั้ง กว่าจะรู้ตัวอีกทีมือเขาก็เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด เช่นเดียวกับสเวตเตอร์สีครีมตัวนี้ที่เขาขโมยมาจากแจจุง กว่าจะรู้ตัวอีกที...ยุนโฮก็ไม่หายใจ...ยุนโฮตายแล้ว...
      .
      .
      .

      ท่าม กลางแสงแดดยามเช้าและหิมะสีขวาที่ยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ผู้คนต่างเดินสวนทางกันไปมาอย่างขวักไขว่ จะมีก็แต่ใครคนหนึ่งที่ยืนนิ่งไม่ยอมก้าวไปไหนอยู่บนฟุตบาทริมถนนนั้น ชายหนุ่มร่างบางผู้มีใบหน้าสวยหวานแต่ร่างกายกลับเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ทั้งเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ ทั้งมือขาวๆ สั่นเทานั้นที่ยังคงกำมีดไว้...เปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดง...

      คิมยองอุ งยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาเหม่อลอย ดวงตากลมโตคู่งามที่ไร้ประกายความรู้สึกใดๆ เหม่อมองไปไกลอย่างไร้จุดหมาย...ราวกับมองหาใครอีกคน...
      .
      .
      .

      “ยองอุง~ แจจุงไปก่อนนะ เดี๋ยวยุนโฮจะมารับแล้วล่ะ”
      “จะไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอ?”
      “ไม่รู้สิ...ยุนโฮบอกว่าจะพาไปดินเนอร์ แล้วก็จะมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วย!...”
      “ท่าทางมีความสุขกันจังเลยนะ...”
      “อื้อ...แจจุงมีความสุขมากๆ เลย แจจุงรักยุนโฮมากๆ เลยล่ะยองอุง”
      “รักเหรอ?...รักมากมั๊ย...?......รักมากแค่ไหนกัน...”
      “รักมากที่สุด!”
      “ที่สุด? แน่ใจเหรอว่าที่สุด?...แจจุงรักเขา...มากกว่าที่ฉันรักเขาอีกเหรอ...”
      “พะ...พูดอะไรน่ะยองอุง...แจจุงไม่เข้าใจ...”
      “อย่าโง่ไปหน่อยเลย...”
      “ยองอุง...”
      “อย่าทำเป็นไม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง...อย่าทำเป็นไม่สนใจว่าฉันจะเจ็บปวดแค่ไหน...เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว!”
      “ไม่นะยองอุง...แจจุงไม่เคยทำแบบนั้น แจจุงไม่เคยคิดแบบนั้น...”
      “ไม่จริง!”
      “แจจุงไม่เคยรู้ว่ายองอุงรู้สึกยังไงกับยุนโฮจริงๆ นะ...ฮึก......แจจุงขอโทษ...”
      “แต่ตอนนี้แจจุงก็รู้แล้วนี่...รู้แล้วว่าฉันรักเขา...ถ้างั้น......แจจุงยกยุนโฮให้ฉันได้มั๊ยล่ะ...”
      “ยองอุง!...”
      “ขอได้มั๊ยผู้ชายคนนั้น...ขอให้พี่ชายคนนี้ได้มั๊ย...”
      “ไม่...ฮึก......ไม่ได้...”
      “แจจุง!”
      “แจ จุงรักยุนโฮ...ยุนโฮก็รักแจจุง...ฮึก......ในชีวิตแจจุงให้ทุกอย่างกับยองอุ งได้ ยองอุงจะเอาอะไรไปก็ได้...ยกเว้นอย่างเดียว...ฮึก......ยุนโฮคนเดียวเท่า นั้น...”
      “ไม่ยอมใช่มั๊ย...?”
      “...ไม่...”
      “ถ้างั้น...ก็ตายๆ ไปซะเถอะ!”

      ยองอุงใช้เชือกที่อยู่ในมือรัดคอแจจุงจนหมดลมหายใจ แม้จะออกแรงขัดขืนเท่าไร แต่แจจุงผู้อ่อนแอก็สู้ยองอุงไม่ได้

      และเมื่อแจจุงตาย เมื่อโลกนี้ไม่มีคิมแจจุง
      ชองยุนโฮก็จะเป็นของคิมยองอุงแต่เพียงผู้เดียว

      ...ตลอดไป...





      The END









      ฟิคเรื่องนี้แม่งโรคจิตว่ะ... ฮ่าๆๆ

      ตั้งใจแต่งให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับทุกคน
      ขอโทษที่ลงดีเลย์เลยคริสต์มาสไปแล้ว ของขวัญย้อนหลังแล้วกันนะ
      ถึงจะเป็นของขวัญที่ไม่หวานแหววหรืออาจไม่ถูกใจกันซักเท่าไร
      แต่เราว่าแต่งแบบนี้ก็สนุกดี แปลกดี...หาอะไรใหม่ๆ มาเป็นสีสันเนอะ

      เมอร์รี่คริสต์มาส + แฮปปี้ย้อนหลังแปดปีเทพเจ้าทั้งห้าของพวกเราค่ะ smile.gif



      Contact: @WilyRover on twitter









      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×